ในยุคสมัยที่ Ai เข้ามามีบทบาทในการช่วยผลิตเนื้อหา รวมถึงทุกคนในวงการสื่อ หรือการทำเว็บเข้าใจแล้วว่าการทำ SEO – Search Engine Optimization ต้องทำอย่างไร ดังนั้นการแข่งขันการผลิตเนื้อหาที่มีคำสำคัญ (keywords) ในการค้นหาเป็นจำนวนมาก จึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ระบบค้นหาข้อมูลหรือ Search Engine นั้นก็มองออกเหมือนกันว่าเนื้อหาแบบไหน คือ เนื้อหาคุณภาพ และแบบไหนคือเนื้อหาขยะทีทำมาเพื่อให้ติดอันดับเท่านั้น
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการทำเนื้อหาเพื่อผู้อ่าน (Human or people Content First) และเนื้อหาเพื่อให้ติดผลการค้นหา (Search Engine Content First) กัน
การประเมินเนื้อหาของคุณเองกับคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าเนื้อหาที่คุณกำลังสร้างนั้นมีประโยชน์และเชื่อถือได้หรือไม่ นอกเหนือจากการถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้แล้ว ให้พิจารณาให้ผู้อื่นที่คุณไว้วางใจแต่ไม่เกี่ยวข้องกับไซต์ของคุณทำการประเมินอย่างตรงไปตรงมา
เนื้อหาที่มีคุณภาพประกอบไปด้วย
- เนื้อหาให้ข้อมูลต้นฉบับ การรายงาน การวิจัย หรือการวิเคราะห์หรือไม่
- เนื้อหามีคำอธิบายที่เป็นสาระสำคัญ มีลำดับ มีความสมบูรณ์ ครอบคลุม และตอบคำถามหัวข้อเรื่อง (Title)หรือไม่
- เนื้อหามีการวิเคราะห์เชิงลึกหรือให้ข้อมูลที่น่าสนใจที่เกินความชัดเจนหรือไม่?
- หากเนื้อหาใช้แหล่งข้อมูลอื่น เนื้อหานั้นหลีกเลี่ยงการคัดลอกหรือเขียนซ้ำจากแหล่งข้อมูลเหล่านั้น และให้คุณค่าและความเป็นต้นฉบับเพิ่มเติมแทนหรือไม่
- หัวเรื่องหลัก (Title) หรือชื่อหน้าให้รายละเอียดสรุปที่เป็นประโยชน์ของเนื้อหาหรือไม่
- หัวเรื่องหลักหรือชื่อหน้า หลีกเลี่ยงการพูดเกินจริง หรือทำให้ตกใจโดยธรรมชาติหรือไม่?
- เป็นเนื้อหาที่คุณอยากเก็บไว้ในเครื่อง หรือแชร์แบ่งปันกับเพื่อน หรือไม่
- คุณคาดหวังที่จะเห็นเนื้อหานี้ในหรืออ้างอิงจากนิตยสารสิ่งพิมพ์ สารานุกรม หรือหนังสือหรือไม่
- เนื้อหามีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับหน้าอื่นๆ ในผลการค้นหาหรือไม่
- เนื้อหามีปัญหาในการสะกดหรือโวหารหรือไม่ ?
- เนื้อหาถูกผลิตออกมาดีไหม มีความตั้งใจในการทำเนื้อหา มีภาพประกอบชัดเจน มีลิงก์ไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ไม่ดูชุ่ยๆ หรือเร่งรีบในการทำเนื้อหา
- เนื้อหาถูกผลิตขึ้นจำนวนมากโดยหรือว่าจ้างจากภายนอกให้กับผู้สร้างจำนวนมาก หรือกระจายไปทั่วเครือข่ายไซต์ขนาดใหญ่ ทำให้แต่ละหน้าหรือบางไซต์ไม่ได้รับความสนใจหรือเอาใจใส่เท่าที่ควร
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญ หรือชำนาญการ เฉพาะทาง
เนื้อหานำเสนอข้อมูลในลักษณะที่ทำให้คุณต้องการเชื่อถือหรือไม่ เช่น แหล่งที่มาที่ชัดเจน หลักฐานของความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ภูมิหลังเกี่ยวกับผู้เขียนหรือไซต์ที่เผยแพร่ เช่น ผ่านลิงก์ไปยังหน้าผู้เขียนหรือไซต์เกี่ยวกับ หน้าหนังสือ?
ควรทำเนื้อหาให้คนอ่านเป็นลำดับแรก (People First Content)
เนื้อหาที่คำนึงถึงคนอ่านเป็นอันดับแรก หมายถึงเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อผู้คนเป็นหลัก และไม่บิดเบือนเพื่อการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา คุณจะประเมินได้อย่างไรว่าคุณกำลังสร้างเนื้อหาที่คำนึงถึงผู้คนเป็นอันดับแรก แนวทางต่อไปนี้ช่วยให้คุณประเมินว่าเนื้อหาที่ทำอยู่นั้นเป็นแบบที่คำนึงถึงผู้อ่านเป็นอันดับแรกแล้วหรือยัง :
- คุณมีผู้ชมที่มีอยู่หรือตั้งใจสำหรับธุรกิจหรือไซต์ของคุณที่จะพบว่าเนื้อหามีประโยชน์หากพวกเขาส่งตรงถึงคุณหรือไม่
- เนื้อหาของคุณแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเชี่ยวชาญโดยตรงและความรู้เชิงลึก (เช่น ความเชี่ยวชาญที่มาจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการจริง หรือการเยี่ยมชมสถานที่) หรือไม่ ?
- เว็บไซต์ของคุณมีจุดประสงค์หรือจุดสนใจหลักหรือไม่ ?
- หลังจากอ่านเนื้อหาของคุณแล้ว ใครบางคนจะรู้สึกว่าพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อนั้นมากพอที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่
- คนที่อ่านเนื้อหาของคุณจะรู้สึกว่าพวกเขาได้รับประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจหรือไม่?
เนื้อหาที่ทำเพื่อติดผลการค้นหาเป็นอย่างไร (Search Engine First Content)
ขอแนะนำให้คุณมุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาที่คำนึงถึงผู้คนเป็นอันดับแรกเพื่อให้ประสบความสำเร็จกับ Search Engine มากกว่าเนื้อหาที่คำนึงถึงเครื่องมือค้นหาซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้ได้รับการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาเป็นหลัก การตอบว่าใช่สำหรับคำถามบางข้อหรือทุกข้อด้านล่างเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรประเมินวิธีการสร้างเนื้อหาอีกครั้ง :
- เนื้อหานี้สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดการเข้าชมจากเครื่องมือค้นหาเป็นหลักหรือไม่
- คุณกำลังผลิตเนื้อหาจำนวนมากในหัวข้อต่างๆ มากมายโดยหวังว่าบางส่วนอาจทำงานได้ดีในผลการค้นหาใช่หรือไม่
- คุณใช้ระบบอัตโนมัติอย่างครอบคลุมเพื่อผลิตเนื้อหาในหลายหัวข้อหรือไม่?
- คุณกำลังสรุปสิ่งที่คนอื่นพูดเป็นหลักโดยไม่ได้เพิ่มคุณค่าอะไรมากมายใช่หรือไม่?
- คุณกำลังเขียนเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เพียงเพราะว่าพวกเขาดูกำลังเป็นที่นิยม และไม่ใช่เพราะคุณต้องการเขียนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นสำหรับผู้ชมที่มีอยู่ของคุณใช่หรือไม่
- เนื้อหาของคุณทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าต้องค้นหาอีกครั้งเพื่อรับข้อมูลที่ดีขึ้นจากแหล่งอื่นหรือไม่?
- คุณกำลังเขียนถึงการนับคำเฉพาะ (2000 คำขึ้นไป) เนื่องจากคุณเคยได้ยินหรืออ่านมาว่า Google มีจำนวนคำที่ต้องการหรือไม่ (ไม่ เราไม่ทำ)
- คุณตัดสินใจที่จะเข้าสู่พื้นที่หัวข้อเฉพาะบางหัวข้อโดยไม่มีความรู้จริง แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะคุณคิดว่าคุณจะได้รับปริมาณการค้นหาหรือไม่
- เนื้อหาของคุณสัญญาว่าจะตอบคำถามที่ไม่มีคำตอบจริงๆ หรือไม่ เช่น การบอกว่ามีวันที่วางจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ ภาพยนตร์ หรือรายการทีวีที่ยังไม่ได้รับการยืนยันหรือไม่
แล้ว SEO ล่ะ ถือเป็นการให้ความสำคัญกับเครื่องมือค้นหาเป็นอันดับแรกไหม
มีบางอย่างที่คุณสามารถทําได้เพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาค้นพบและเข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดียิ่งขึ้น เราเรียกสิ่งนี้รวมกันว่า “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา” หรือเรียกสั้นๆ ว่า SEO คู่มือ SEO ของ Google จะอธิบายแนวทางปฏิบัติแนะนําต่างๆ SEO อาจเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์เมื่อนําไปใช้กับเนื้อหาที่ให้ความสําคัญกับผู้ใช้เป็นหลัก ไม่ใช่เนื้อหาที่คำนึงถึงเครื่องมือค้นหาเป็นหลัก
ทําความรู้จักกับ E-E-A-T และหลักเกณฑ์ของผู้ประเมินคุณภาพ
ระบบอัตโนมัติของ Google ออกแบบมาเพื่อใช้ปัจจัยต่างๆ ในการจัดอันดับเนื้อหาที่ดี หลังจากระบุเนื้อหาที่เกี่ยวข้องแล้ว ระบบของเราตั้งเป้าที่จะให้ความสําคัญกับเนื้อหาที่ดูจะมีประโยชน์มากที่สุด ในการทำเช่นนี้ ระบบจะระบุปัจจัยหลายอย่างผสมกันที่จะช่วยตัดสินว่าเนื้อหาใดแสดงให้เห็นถึงแง่มุมของประสบการณ์ (Experience) ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ความน่าเชื่อถือ (Authoritativeness) และความเชื่อใจได้ (Trustworthiness) หรือที่เราเรียกว่า E-E-A-T
ในแง่มุมเหล่านี้ ความไว้วางใจถือว่าสําคัญที่สุด ส่วนแง่มุมอื่นๆ ก็มีส่วนสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องแสดงให้เห็นทั้งหมดในเนื้อหา เช่น เนื้อหาบางส่วนอาจมีประโยชน์เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ที่เนื้อหานั้นนําเสนอ แต่เนื้อหาอื่นๆ อาจมีประโยชน์เนื่องจากมีการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ
แม้ว่า E-E-A-T จะไม่ใช่ปัจจัยในการจัดอันดับโดยเฉพาะ แต่การพิจารณาหลายปัจจัยรวมกันซึ่งทำให้ระบุเนื้อหาที่มีคุณสมบัติ E-E-A-T ที่ดีได้นั้นเป็นประโยชน์ ตัวอย่างเช่น ระบบของเราให้น้ำหนักแก่เนื้อหาที่มีคุณสมบัติ E-E-A-T มากกว่าสำหรับหัวข้อที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน หรือความปลอดภัยของประชาชน หรือต่อสวัสดิการหรือความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม เราเรียกหัวข้อเหล่านี้ว่า “Your Money or Your Life” หรือเรียกสั้นๆ ว่า YMYL
ผู้ประเมินคุณภาพการค้นหาคือผู้ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกว่าอัลกอริทึมของเราน่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงที่เราทำนั้นให้ผลดี กล่าวอย่างเจาะจงคือ ผู้ประเมินได้รับการฝึกอบรมให้เข้าใจว่าเนื้อหามีคุณสมบัติ E-E-A-T ที่มีคุณภาพดีมากพอหรือไม่ เกณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการนี้ที่ระบุไว้ในหลักเกณฑ์ของผู้ประเมินคุณภาพการค้นหา
